ในช่วงฤดูแล้งของทุกปีพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์มักประสบกับปัญหาหมอกควัน ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากการเผาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรในที่โล่งแจ้ง
การเผาเศษฟางข้าว ข้าวโพด อ้อย และเศษวัสดุเหลือทิ้งของเกษตรกร ล้วนก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศปริมาณมาก และยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
จัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกตรหรือการแปรรูปให้เกิดประโยชน์และสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรจึงเป็นแนวคิดที่มีการตื่นตัวเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จากปัญหาที่การเหลือทิ้งวัสดุทางการเกษตรจึงมาสู่แนวคิดโมเดลการนำวัสดุมาปรับศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) คือ โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นแนวคิดการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับ 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curves) ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมพลังงานและวัสดุ อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ โดยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ผลิตที่เป็นฐานการผลิตเดิม เช่น เกษตรกรและชุมชน ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงหรือนวัตกรรม
เนื่องจากคุณสมบัติของถ่านชีวภาพ คือมีรูพรุนตามธรรมชาติเมื่อใส่ลงใน ดินจะช่วยการระบายอากาศ การซึมน้ า การอุ้มน้ำ ดูดยึดธาตุอาหาร เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ลดความเป็นกรด ของดิน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มคุณภาพของปุ๋ยให้สูงขึ้น ทำให้ประหยัดการใช้ปุ๋ย ลดต้นทุน เพิ่มรายได้เพิ่ม ผลผลิต เป็นเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาได้ตั้งแต่ระดับเกษตรกร ครัวเรือน ชุมชนและองค์ส่วนท้องถิ่นที่ใช้ในการปรับปรุงดินที่ได้จากกระบวนการ ย่อยสลายเชิงความร้อนของชีวมวลหรือสารอินทรีย์ซึ่งเป็นสารประกอบของสิ่งมีชีวิตที่ย่อยสลาย ได้ตามธรรมชาติ (เช่น ต้นไม้เศษใบไม้กิ่งไม้เศษวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร เช่น ฟางข้าว ตอซัง ซังข้าวโพด เปลือกถั่ว เปลือกผลไม้เหง้ามันสําปะหลัง เศษอาหารในครัวเรือน หรือมูลสัตว์เป็น ต้น) กระบวนการย่อยสลายเชิงความร้อนนี้เรียกว่า “ไพโรไลซิส (pyrolysis)” (พินิจภณ, 2557., ศิ ริลักษณ์และอรสา, 2556., อรสา, 2561
ภาคการศึกษาที่ 1/2568